หลังจากที่เริ่มดำเนินการประกันสังคม(เงินบำเหน็จบำนาญ) ในวันที่ 1 มกราคม 2010 ได้มีการแบ่งเงินบำเหน็จบำนาญชราภาพออกเป็น 3 ประเภท :

1.เงินบำนาญชราภาพ

2.เงินบำเหน็จชราภาพ 

3.เงินบำเหน็จชราภาพแบบจ่ายครั้งเดียว

ผู้ที่เข้าร่วมประกันแรงงานก่อนวันที่ 1 มกราคม 2010 ถึงจะสามารถเลือกรับเงินบำเหน็จแบบจ่ายครั้งเดียวได้ ; ผู้ที่เข้าร่วมประกันแรงงานหลังวันที่ 1 มกราคม 2010 เป็นครั้งแรก ไม่สามารถขอรับเงินบำเหน็จแบบจ่ายครั้งเดียวได้ และหลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

1.เงินบำนาญชราภาพ : ผู้เอาประกันตรงตามหนึ่งในข้อกำหนดด้านล่าง สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพได้

(1)  มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ มีอายุประกันครบ 15 ปีและทำเรื่องถอนกรมธรรม์

※อายุที่สามารถยื่นรับ จากปี 2009 ถึง 2017 เป็นอายุ  60 ปี ,ปี 2018 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 61 ปี ,ปี2020 ปรับขึ้นเป็นอายุ 62 , ปี 2022  ปรับขึ้นเป็นอายุ 63 ปี ,ปี 2024 ปรับขึ้นเป็นอายุ 64 ปีและหลังจากปี 2026 จะเป็นเป็นอายุ 65 ปี

※ขยายระยะเวลาในการยื่นรับเงินประกันบำนาญชราภาพ ：ผู้ที่อยู่ในระยะเวลาประกันครบ 15 ปี และอายุตรงตามที่กฎกำหนดแต่อยากยื่นขยายระยะเวลาในการขอรับเงินบำนาญชราภาพ เมื่อขอรับเงินแล้วจะได้รับการจ่ายเงินบำนาญชราภาพแบบขยายระยะเวลา

※ลดการจ่ายเงินบำนาญชราภาพ ：ผู้ที่อยู่ในระยะเวลาประกันครบ 15 ปี แต่ไม่ตรงตามอายุที่กำหนดในการขอรับเงินประกันบำนาญชราภาพ สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพได้ก่อนเวลา 5 ปี

※ตารางเปรียบเทียบปีเกิดและอายุที่กำหนดตามกฎหมายในการขอรับเงินบำนาญชราภาพจากประกันสังคม

-ผู้ที่เกิดปี 1957 หรือก่อนหน้านี้ ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 60 ในปี 2009-2017สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ  และหากมีอายุระหว่าง 55-59 ในปี 2009-2016 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1958 หรือก่อนหน้านี้ ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 61 ในปี 2019 สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 56-60 ในปี 2014-2018 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1959 ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 62 ในปี 2021 จะสามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 57-61 ในปี 2016-2020 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1960 ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 63 ในปี2023 จะสามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 58-62 ในปี 2018-2022 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1961 ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 64 ในปี 2025 สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุครบ 59-63 ในปี 2020-2024 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1962 ตามกฎหมายแล้วหากมีอายุครบ 65 ในปี 2027 สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 60-64 สามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

-ผู้ที่เกิดปี 1963 หรือหลังจากนี้ ตามกฎหมายแล้วหากผู้ที่คำนวนตามปีเกิดแล้วมีอายุครบ 65 ปีสามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพ สำหรับผู้ที่คำนวนตามปีเกิดแล้วมีอายุระหว่าง 60-64 ปีสามารถขอรับเงินบำนาญแบบลดจำนวนเงิน

หมายเหตุ 1 : ในปี 2009 ได้มีการเริ่มปรับการขอรับเงินบำนาญชราภาพ ตามระบบประกันสังคม  ให้สามารถเริ่มขอได้ตั้งแต่อายุ 60 ปี และอายุที่สามารถขอได้จะเพิ่มขึ้นทีละ 1 ปี ทุกๆ 10 ปี และหลังจากนั้นจะเพิ่มขึ้นทุกๆ 2 ปี จนถึงอายุ 65 ปี ซึ่งเป็นอายุสูงสุดในการขอรับบำนาญ

หมายเหตุ 2 : ผู้ที่เกิดปี 1963 สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพแบบลดจำนวนเงินบำนาญได้ในปี 2023-2027 และสำหรับผู้ที่เกิดปี 1964 สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพแบบลดจำนวนเงินบำนาญได้ในปี 2024-2028 และสำหรับปีอื่นๆ ให้คำนวนตามลำดับต่อไป

(2) ผู้ที่มีอายุครบ 55 ปีและทำงานที่มีลักษณะงานที่อันตราย , ต้องใช้ร่างกายที่แข็งแรงหรืองานที่มีลักษณะพิเศษอื่นๆรวมเป็นเวลา 15 ปี และได้ดำเนินการถอนประกันเมื่อออกจากงาน

※เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ค.ศ.2008 คณะกรรมการสภาแรงงานบริหารได้มีคำสั่งหมายเลข 0970140623 เรื่อง “ลักษณะงานที่อันตราย , ต้องใช้แรงกายเยอะหรืองานที่มีลักษณะพิเศษอื่นๆ”ของกระทรวงแรงงานก่อนปรับโครงสร้าง ได้กล่าวถึงงานที่ระบุไว้ด้านล่างดังต่อไปนี้ สอดคล้องกับมาตรการป้องกันอันตรายที่เกิดจากความดันอากาศผิดปกติและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.2009 :

1.ห้องทำงานที่มีแรงดันสูง

2.งานที่ทำใต้น้ำ

(3) หากระยะเวลาที่อยู่ในประกันแรงงานไม่ครบ 15 ปี แต่หากระยะเวลาประกันบำนาญแห่งชาติผู้สูงอายุรวมแล้วครบ 15 ปี ผู้ประกันตนสามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพได้เมื่ออายุครบ 65 ปี

※ ข้อควรระวัง

1.ผู้ประกันตนที่ขอรับเงินบำนาญชราภาพจะมีสิทธิ์ขอรับในวันถัดไปหลังจากวันที่ถอนประกันเมื่อออกจากงาน หากวันที่ถอนประการเมื่อออกจากงานเป็นวันสุดท้ายของเดือน จะเริ่มรับเงินบำนาญในเดือนถัดไปและจะได้รับทุกเดือน

2.หลังจากที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพแล้วเสียชีวิต และยังมีเงินบำนาญชราภาพที่ยังไม่ได้โอนเข้าบัญชีผู้เสียชีวิต ทายาทตามกฎหมายสามารถขอยื่นรับเงินบำนาญชราภาพได้ หรือหากมีเงินส่วนต่างที่ยังไม่ได้โอนเข้าบัญชีของผู้เสียชีวิต ผู้ที่มีคุณสมบัติตรงกับข้อกำหนดสามารถยื่นขอรับเงินส่วนนั้นได้

(2).เงินบำนาญชราภาพที่จ่ายเพียงครั้งเดียว : อายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ระยะเวลาที่อยู่ในประกันรวมไม่เกิน 15 ปีและทำการยื่นเรื่องเกษียณอายุ

※อายุในการขอรับเงินบำนาญปี 2009-2017 คือ 60 ปี ,ปี 2018 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 61 ปี ,ปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 62 ปี ,ปี 2022 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 63 , ปี 2024 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 64 ปี และปี 2026 เพิ่มขึ้นเป็นอายุ 65 ปี

※ตารางเปรียบเทียบปีเกิดและอายุในการขอรับเงินบำนาญชราภาพแบบจ่ายครั้งเดียว

-ผู้ที่เกิดปี 1957 หรือก่อนหน้านี้  เมื่ออายุครบ 60 ในปี 2009-2017 สามารถขอยื่นรับเงินบำนาญได้

-ผู้ที่เกิดปี 1958 เมื่ออายุครบ 61 ในปี 2019 สามารถขอยื่นรับเงินบำนาญได้

-ผู้ที่เกิดปี 1959 เมื่ออายุครบ 62 ในปี 2021 สามารถยื่นขอรับเงินบำนาญได้

-ผู้ที่เกิดปี 1960 เมื่ออายุครบ 63 ในปี 2023 สามารถยื่นขอรับเงินบำนาญได้

-ผู้เกิดปี 1961 เมื่ออายุครบ 64 ในปี 2025 สามารถยื่นขอรับเงินบำนาญได้

-ผู้เกิดปี 1962 (รวมถึงหลังจากปีนี้) เมื่ออายุครบ 65 ในปี 2027 (รวมถึงหลังจากปีนี้) สามารถยื่นขอรับเงินบำนาญได้

(3).ขอรับเงินบำนาญแบบจ่ายครั้งเดียว：หากผู้ประกันตนที่อยู่ในประกันก่อนวันที่ 1 มกราคม 2009 และมีคุณสมบัติสอดคล้องกับข้อมูลด้านล่าง สามารถขอรับเงินบำนาญชราภาพแบบจ่ายครั้งเดียวได้ หากทางกรมประกันอนุมัติแล้วไม่สามารถทำการเปลี่ยนแปลงได้

1. ผู้ประกันตนที่เข้าร่วมประกันเป็นระยะเวลารวม 1 ปี และมีอายุครบ 60 ปีหรือผู้หญิงที่มีอายุครบ 55 ปีที่ได้ทำการเกษียณอายุ

2. ผู้ประกันตนที่เข้าร่วมประกันเป็นระยะเวลารวม 15 ปี และเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 55 ปี

3.ผู้ประกันตนที่เกษียณอายุและมีระยะเวลาการเข้าร่วมประกันในหน่วยงานเดียวกันรวม 25 ปี

4. ผู้ประกันตนที่เกษียณอายุเมื่ออายุครบ 50 ปีและมีระยะเวลาการเข้าร่วมประกันเป็นเวลารวม 25 ปี

5. ผู้ที่ทำงานที่อันตราย , ต้องใช้แรงกายมากและงานที่มีลักษณะพิเศษอื่นๆรวมกันเป็นเวลา 5 ปีและเกษียณอายุเมื่ออายุครบ 55 ปี

※ก่อนที่กระทรวงแรงงานปรับโครงสร้าง คณะกรรมการของกระทรวงแรงงานแห่งชาติได้มีคำสั่งเลขที่ 0970140623 เรื่อง “ลักษณะงานที่อันตราย , ต้องใช้แรงกายมากหรืองานที่มีลักษณะพิเศษอื่นๆ” สื่อถึงงานที่ระบุไว้ด้านล่างซึ่งมีการทำงานที่ตรงตามมาตรการป้องกันอันตรายจากความดันอากาศผิดปกติ และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2009

1.ห้องทำงานที่มีแรงดันสูง

2.งานที่ทำใต้น้ำ

ข้อมูลนี้มีไว้เพื่ออ้างอิงเท่านั้น จำเป็นต้องดำเนินการตามประกาศของหน่วยงานที่มีอำนาจ